วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2566

เลือกตั้งทั้งที..มีแค่นี้หรือ

 

เลือกตั้งทั้งที..มีแค่นี้หรือ

            ในห้วงนี้ก็มาบรรจบครบรอบการเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งต่างคนต่างพรรคก็พยายาม

หากลยุทธ์มาแข่งขันมาประหัตประหารกันอย่างชนิดไม่ยอมกันหลักๆก็คงมีราวๆ 3 แนวทางคือ

            1.ด้านนโยบายเน้นการลดแลกแจกแถม บางครั้งแฝงมากับสวัสดิการประชาชนฉาบฉวย

ที่เป็นเหมือนภาพจิกซอของนโยบาย แล้วแต่ข้าจะคิดได้บนพื้นฐานเม็ดคะแนนเป็นที่ตั้งโดย

ไม่ได้คำนึงถึงผลระยะยาวทั้งในแง่ของผลกระทบ “การรับจนเคยชินของประชาชน” ทั้งที่แผน

สวัสดิการรัฐก็มิได้มีการเดินอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และแผนระยะยาวว่าสอดคล้องกับเป้าหมาย

หรือไม่อย่างไร

            2.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุน การขายฝันต่างๆ ถึงแม้จะอ้างแผนพัฒนาแห่งชาติ

พอมีอำนาจขึ้นมาก็ไมแคล้วขัดต่อนู้นนี่นั้นสารพัดท้ายสุดก็ชะลอ เปลี่ยนสัญญา แก้ไขเพิ่มเติม

สารพัด เพื่อตอบโจทย์ตนหรือเครือขายธุรกิจตน

            3.การโจมตีพรรคคู่แข่ง ประเด็นจุดอ่อนคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะพรรคที่มีแนวโน้มชนะการ

เลือกตั้ง หรือมีภาพลักษณ์ดีมีความเป็นไปได้ที่จะได้นั่งนายก ถ้าหากประเด็นไม่พอ กระแสมัน

ไม่ได้ก็ต้องอาศัยกลไกลโซเซียล และการปลุกกระแสวัยรุ่น นักศึกษา ผ่านเครือขาย ครูในรั้ว

มหาลัยลากการเมืองลงถนน ไม่สนวิธีการ

            ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็อยากบอกว่าได้รับฟังประชาชนแบบจริงจังหรือเปล่า ถ้าชีวิต

ประชาชนตาดำๆต้องตอบโจทย์แค่นี้ ทำได้แค่นี้หรือ ชีวิตความเป็นอยู่ก็สำคัญ นโนบายที่มุ่ง

ตอบสนองต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ มาตรฐานด้านสุขภาพเกณฑ์อยู่ใหน มาตรฐานด้านการศึกษา

แข่งขันได้จริงหรือ ความเหลือมล้ำทางการศึกษาล่ะ หลักสูตรได้มาตรฐานพอหรือยัง ตอบโจทย์

หรือไม่ นโยบายที่มุ่งส่งเสริมจุดแข็งของประเทศในด้านต่างๆละและที่สำคัญได้เดินตามแผนที่

ได้วางไว้ สอดคล้องหรือไม่อย่างไร ไม่ใช่แล้วแต่ข้าดีแล้ว ตอบสนองต่อข้าจึงเอามาใส่ อย่างนี้

คงอายนานาประเทศเขา เพระเขาเรียกว่ามวยวัด หรือมวยกุญขแมก็ไม่ผิดนัก